สาเหตุหลักที่ทำให้ผ ช.นอпใจภรรยาไปมีชู้ ส่วนใหญ่จะมาจากบุคลิกนิสัยส่วนตัว ที่ชอบปล่อยตัวปล่อยใจไปแล้วแต่เหตุการณ์
และขาดความยับยั้งชั่งใจ จนนำพาไปสู่การพ่ายแพ้ต่อกิ เลสตัณหาของตน แต่นอпจากนี้ก็ยังมีอีกหลายสาเหตุ ที่ทำให้ผ ช.หันไปมีบ้านเล็กบ้านน้อย โดยสรุปได้ดังนี้
1. ไม่มีความสุขกับภรรยาหลวง
ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันยังมีการคลุมถุงชนอยู่ คู่แต่งงานหลายคู่ก็แต่งงานกันด้วยความไม่เต็มใจ ผู้ใหญ่ชอบอ้างว่า “อยู่ๆ ไปเดี๋ยวก็รักกันเอง”
ซึ่งหลายคู่ก็ได้เห็นแล้วว่าอยู่ยังไงก็ไม่ได้รักกันจริง แต่ทั้งนี้ข้อนี้ก็ไม่ควรเป็นข้ออ้างของการมีชู้ เพราะถ้าหากคุณจดทะเบียสมรสแล้ว การจะมีคนอื่นได้ก็ควรหย่าร้างกันให้เสร็จเสียก่อน
2. เกิดจากการได้ใกล้ชิดกับผ ญ.คนอื่น
โดยที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดน่าจะเป็นคู่รักที่ทำงานกันคนละที่ และเพื่อนร่วมงานของฝ่ายชายดันเป็นผ ญ. กิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับการทำงาน
ไม่ว่าจะเป็นการประชุม นั่งติดกัน กินข้าวพร้อมกัน ออกสัมมนาด้วยกันและอื่นๆ จึงเป็นจุดที่ทำให้เกิดความผูกพันขึ้น จนเป็นที่มาของการนอпใจได้
3. มีปัญหาด้านบุคลิกภาพเป็นทุนเดิม
คือมักเป็นคนที่ไม่ชอบตัดสินใจ ไม่ชอบแสดงออก อารมณ์อ่อนไหว หรืออารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย ใจร้อนหุนหัน ทำให้ปล่อยตัวปล่อยใจไปเรื่อยๆ
แล้วแต่เหตุการณ์จะพาไป ไม่ควบคุมตัวเอง ไม่ตัดสินใจยุติปัญหาแต่ต้นลม ขาดความยับยั้งชั่งใจที่จะไม่ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
โดยไม่ยุติความสัมพันธ์เมื่อเห็นว่า ความสัมพันธ์นั้นจะเลยเถิดไปเป็นเรื่องผิดศีลธรรม
4. หญิงที่เป็นชู้ให้ผลประโยชน์ในสิ่งที่ผ ช.อยากได้
เช่น ข้าวของ เงินทอง สามารถสนับสนุนให้ก้าวหน้าในหน้าที่การงานที่ทำอยู่ได้ กระทั่งตอบสนองความต้องการทางเ พ ศ
จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผ ช.ไปมีภรรยาอื่น เพราะภรรยาหลวงอาจไม่สามารถตอบสนอง ความต้องการทางจิ ตใจของสามีได้นั่นเอง แต่แน่นอนว่านี่เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ไม่ถูกต้องและผิดศีลธรรม
5. ผูกใจจำกับทัศนคติที่ว่าผ ช.สามารถมีภรรยาได้มากกว่า 1 คน
และมองว่าไม่เห็นจะเป็นอะไรหากจะมีพร้อมกันหลายคน แต่สิ่งที่แย่กว่านั้นคือผ ช.เหล่านี้ ก็จะไม่ยอมให้ภรรยาไปมีสามีได้หลายคนเหมือนกับที่ตัวเองทำ
เรียกได้ว่าเห็นแก่ตัวที่แท้ทรู ตัวเองมีได้แต่เมียห้ามมี นอпจากนี้หากเขาพบว่าภรรยาตัวเองไปมีสามีอื่น ก็อาจจะนำมาสู่การทำร้ า ยร่างกายกันได้อีกด้วย
