8 เรื่องสำคัญเป็นตัวทำลายชีวิตหลังแต่งงาน

การแต่งงาน เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น เพราะ ชีวิตหลังแต่งงาน นั้น มีอะไรที่คุณและคนรักยังต้องเรียนรู้กันอีก

ก่อนการแต่งงานหลายคู่วาดภาพการใช้ชีวิตคู่ซะสวยหรู แต่เอาเข้าจริงกลับไม่เป็นอย่างที่ฝัน กว่าจะรู้ตัวก็เรียกได้ว่า ครอบครัวเกือบพัง

1. ไม่ให้ความสำคัญกับคู่ชีวิตเป็นอันดับต้นๆ

การแต่งงานไม่ใช่การเข้าคุกหรือโรงเรียนประจำ ดังนั้นคุณจึงยังคงมีอิสระในการใช้ชีวิตส่วนตัว เพียงแต่ว่าคุณควรต้องให้ความสำคัญกับคู่ชีวิตที่คุณเลือกมาเป็นอันดับต้นๆ

จะไปไหนทำอะไรขอให้คิดถึงอีกคนเสมอว่า การตัดสินใจของคุณจะมีผลกระทบอะไรกับความรู้สึกของอีกฝ่ายไหม

หรือทำอะไรไปแล้วอีกคนรู้เป็นคนหลังๆ ก็ไม่ค่อยเวิร์คนะคะ ซึ่งถ้าคุณนึกอยากจะทำอะไรก็ทำแบบนั้นละก็ ชีวิตแต่งงานไม่แคล้วมีปัญหาชัวร์

2. สื่อส า รความในใจกันน้อยเกินไป

คู่ที่คุยกันน้อยเหลือเกินเป็นคู่ที่เสี่ยงชีวิตคู่พังค่ะ เพราะความคิดและความรู้สึกไม่ได้ถูกถ่ายทอดให้อีกฝ่ายได้รับรู้

ซึ่งถ้าคุณไม่พูด เอาแต่เก็บกดไว้ในใจ แล้วคิดว่าชินซะแล้ว ความในใจที่มี ความอึดอัดที่เกิดจะมีใครรู้แล้วจะช่วยกันแก้ปัญหาได้ยังไงล่ะจริงไหม

3. ไม่รู้จักรักษาความลับ

เรื่องในบ้านก็ควรอยู่แต่ในบ้าน เรื่องส่วนตัวระหว่างคุณกับเขาก็ไม่ควรนำออกไปเม้า ยิ่งเป็นเรื่องความลับที่คุณก็รู้อยู่แล้วว่าเขาเองคงไม่ชอบแน่นอนที่คนนอпจะรู้เรื่องนั้นๆ

ยิ่งต้องเก็บให้มิด ไม่ใช่เที่ยวได้บ่นกับเพื่อนๆ เพราะคิดแค่ว่าต้องหาที่ระบาย ระวังเถอะ เขารู้ว่าคุณเอาไปเม้าเมื่อไหร่

คุณจะไม่ได้รู้อะไรจากเขาอีกเลย ซึ่งถ้าวันหนึ่งเขาไม่คิดจะพูดอะไรให้คุณรู้อีกเลย ครอบครัวของคุณจะยังเป็นครอบครัวอยู่ไหมล่ะ

4. ความสัมพันธ์ที่ไม่ดีระหว่างคุณกับครอบครัวของอีกฝ่าย

อย่างที่เคยบอกไปล้านๆ ครั้งแล้วว่า การแต่งงานไม่ใช่เรื่องของคนสองคนเท่านั้น โดยเฉพาะในสังคมไทยที่การแต่งงานคือการรวมความสัมพันธ์ 2 ครอบครัวเข้าไว้ด้วยกัน

ฉะนั้นถ้าคุณมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับครอบครัวอีกฝ่าย แล้วคุณคิดหรือว่าชีวิตครอบครัวของคุณจะสมูทได้

5. ไม่เคยเอ่ยปากขอโทษและยอมรับความผิด

อย่าทำตัวปากหนักประเภทว่ารู้ว่าตัวเองผิดอยู่เต็มอกแต่ก็ไม่เอ่ยปากขอโทษเพื่อแสดงความรับผิดชอบ

เพราะสำหรับชีวิตคู่ การยอมรับในสิ่งที่ตัวเองทำพลาดไป และรู้จักเอ่ยคำขอโทษออกมาจากใจ

จะช่วยให้คุณได้รับความเข้าใจและให้อภัยได้มากกว่าการทำฟอร์มและปล่อยให้อีกฝ่ายคิดว่า ช่างเถอะ เขาก็เป็นแบบนี้

6. ไม่เคยพูดขอบคุณ

จะยากตรงไหนแค่เอ่ยปากขอบคุณในสิ่งที่อีกฝ่ายทำให้กัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเรื่องใหญ่โต เพราะอีกฝ่ายจะสัมผัสได้ถึงการรับรู้ต่อสิ่งที่เพียรดูแลและทำให้

แต่ถ้าคุณไม่เคยพูดออกจากปากว่า ‘ขอบคุณ’ คนที่ทำให้จะรู้สึกหมดแรง หมดกำลัง และอาจคิดไปไกลว่า สิ่งที่ทำให้มีคุณค่าอะไรบ้างไหมเนี่ย

7. หึงหวงเกินเหตุ

หึงได้หวงได้ แต่ขอให้อยู่ในความพอดี เพราะถ้ามากไปละก็ อีกฝ่ายจะรู้สึกได้ถึงคำว่า ‘ไม่เชื่อใจกันเลยหรือไง’

ซึ่งจริงๆ แล้วอีกฝ่ายอาจไม่เคยทำอะไรผิดเลยสักนิด แต่คุณก็หึงหวงมากไปและพาลจับผิดส า รพัดจนอีกฝ่ายอึดอัดและทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างกันย่ำแย่โดยไม่รู้ตัว

8. ไม่แน่ใจว่าที่รู้สึกเรียกว่า ‘รัก’ หรือเปล่า

ข้อนี้ออกจะร้ า ยกาจรุนแรงอยู่สักหน่อย ถ้าอยู่ๆ คุณเกิดตอบตัวเองหรือแม้แต่คนอื่นไม่ได้ว่า ความรู้สึกของคุณที่มีกับอีกฝ่ายยังสามารถเรียกว่า ‘รัก’ ได้เหมือนเดิมไหม

เพราะมีหลายคู่ที่อยู่ๆ แล้วรู้สึกเฉยๆ ให้อยู่ด้วยกันก็อยู่ได้อะไรแบบนั้น ซึ่งถ้าคุณได้คำตอบว่า ้ตัวนะว่า

ยังคงใช้ตำว่า ัมผัสได้ถึงการกันไปแล้วความรู้สึกรักในตอนก่อนแต่งงานหายไปโดยไม่รู้ตัว

ซึ่งถ้าค้นพบว่าคำๆ นี้ไม่อยู่แล้วจริงๆ ลองถามตัวเองค่ะว่า จะทำให้ความรู้สึกนั้นกลับมาได้ไหม และถ้าไม่ได้ ชีวิตคู่ที่ดำรงอยู่ตอนนี้จะไปในทิศทางไหน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *