ปัญหาชีวิตคู่ บางครั้งก็เกินจะรับไหว อาจจะถึงเวลาบอกลา

ความสัมพันธ์ของคนสองคน ไม่ได้จะหวานเสมอไป และแพรวเวดดิ้งไม่ได้อยากให้คุณไม่ยอมรับความจริงในเรื่องความสัมพันธ์ที่อาจเปลี่ยนไป

ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับคู่รัก แต่เชื่อเถอะค่ะว่า ถ้าคุณได้พยายามจนสุดทางแล้ว หากว่ายังเจอเรื่องต่อไปนี้จากอีกฝ่าย

หรือเกิดรู้สึกขึ้นกับตัวเองขอให้คิดดีๆ ว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้กับ ปัญหาชีวิตคู่ ที่ไม่ไหวอย่าฝืน!

1. ทำผิดซ้ำซาก

ไม่ว่าจะผิดเรื่องผ ญ. เรื่องการลงไม้ลงมือ การกินเห ล้ าเมามายจน มากเกินขอบเขต คุยกันก็แล้ว

ลองหาวิธีมาดูแลและจูงใจให้ปรับเปลี่ยนพฤติก็ยังไม่มีอะไรดี แถมยังหนักข้อขึ้น คุณจะไหวต่อไปอีกนานแค่ไหน

2. ระแวงไม่สิ้นสุด

เป็นหรือเปล่าคะ ที่ตัวคุณเองรู้สึกว่าการอยู่ด้วยกัน ไม่ได้อยู่แล้วปลอดโปร่งโล่งใจ แต่อยู่แล้วต้องระแวงตลอดเวลา

แค่แฟนขับรถออกนกบ้านไกลสายตาก็ต้องโทรฯ เช็คหรือให้รายงานตัวทุกชั่วโมง ถ้าเป็นละก็ ถามตัวเองนะคะ อยากสบายใจไหม อยากปลอดโปร่งใจหรือเปล่า

3. ไร้ซึ่งความเป็นเรา นึกถึงแต่เรื่องของตัวเอง

ไม่ว่าคุณหรือเขา ถ้าสิ่งที่ทำอยู่บ่งบอกว่า คิดถึงแต่ตัวเองหรือครอบครัวตัวเองก่อน ประมาณว่าต้องทำทุกอย่างให้กับตัวเองเท่านั้น

นั่นก็เป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่า ความรู้สึกของคุณไม่ได้มีเขาอยู่สักเท่าไหร่ ลองถามตัวเองดูนะคะ คุณหรือคู่องคุณเป็นแบบนั้นไหม

4. ทำทุกสิ่งแบบมีข้อแม้

ไม่มีความเสียสละ อยากจะทำอะไรให้กันต้องมีข้อแม้ มีข้อแลกเปลี่ยน แบบนั้นไม่ได้เรียกว่าใจแลกใจแล้วค่ะ

5. รำคาญบุพการีของอีกฝ่าย

เรื่องบุพการีถือเป็นเรื่องใหญ่นะคะ ถ้าคุณเจอว่าคู่ของคุณแสดงกริยารำคาญบุพการีต่างๆ นานา ทั้งชักสีหน้าใส่ เสียงดังใส่

ทำบ่อยๆ เข้าจนแม้คุณเตือนก็ยังทำอยู่ละก็ ลองคิดดูนะคะว่า คุณจะไปต่อกับคนแบบนี้ได้นานแค่ไหน

6. ไม่คิดจะปรับตัว

ก่อนแต่งงานนิสัยด้านลบเป็นแบบไหน หลังแต่งงานก็ไม่เคยเปลี่ยน ถ้ามันไม่ร้ า ยแรงเชื่อว่าคงมองข้ามกันได้

แต่ถ้าเจอเรื่องหนักๆ เช่นการใช้เงิน มือเติบ ไม่คิดจะเก็บไม่คิดจะหา แถมยังสร้างหนี้ ติดการช้อปออนไลน์ทั้งๆ รายได้ไม่อำนวย

หรือจะเป็นนิสัยประเภทเข้ากับใครไม่ได้ ฉันคือศูนย์กลางทุกอย่าง แบบนั้นละก็ พอเถอะ ปล่อยเขาอยู่ในโลกส่วนตัวของเขาไปคนเดียวดีที่สุด

7. อยู่ต่อเพราะกลัวโดนเม้า

เรื่องนี้อัน ตรายเป็นที่สุด แต่เชื่อไหมคะว่า หลายคู่ในสังคมโลกนี้ยังเป็นอยู่ เพียงเพราะว่าไม่อยากโดนเม้า ทั้งๆ ที่ใจไม่ไหวจะอยู่แล้ว

ก็เลยขอทนอยู่กันไปในหลังคาเดียวกัน แบบแยกกันอยู่คนละมุม ต่างคนต่างใช้ชีวิต เรียกว่าเป็นเพื่อนร่วมบ้าน มากกว่า

คิดดูสิคะว่า ความรู้สึกแบบนั้น มันตัดโอกาสชีวิตที่ดีในอนาคตของตัวเองขนาดไหน

8. อยู่ไปวันๆ ไม่เห็นอนาคต

เคยคุยเรื่องอนาคตข้างหน้าร่วมกันไหม ว่า 10 ปี 20 ปีต่อไป เราจะเป็นยังไง เราจะมีลูกไหม ถ้ามีจะมีกี่คน เลี้ยงดูยังไง ถ้าไม่มีเลย ก็เป็นสัญญาณบอกอย่างหนึ่งว่า

เตรียมตัวแยกย้ายเถอะค่ะ เพราะการไม่มีแผนที่จะมองไปข้างหน้าด้วยกัน ก็เหมือนคุณทั้งคู่ไม่ได้มีปลายทางร่วมกันสักนิด แล้วจะอยู่รออะไรล่ะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *