ระวัง 9 พฤติกรรมที่อาจทำลายชีวิตคู่

หากพูดถึงความรักแล้ว การที่คนสองคนจะดำเนินชีวิตคู่ไปด้วยกันได้ต้องมีองค์ประกอบหลาย ๆ ด้าน หลายคนคิดว่าแค่ความรักอย่างเดียวก็พอ

แต่หากมองตามโลกความเป็นจริง แค่ความรักอย่างเดียวอาจจะไม่พอ ต้องมี ความไว้ใจ ความรู้สึกปลอดภัย

เราต้องมองว่าชีวิตคู่ของเราที่ประกอบสร้างขึ้น มานี้ เราจะเอาแง่มุมไหนเข้าไปเป็นส่วนร่วมที่สร้างชีวิตคู่

1 การไม่จริงใจต่อตัวเอง

การไม่จริงใจต่อตัวเอง เป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังมาก หากเราไม่จริงใจต่อตัวเอง

เราก็จะไม่สามารถจริงใจต่อคนรักได้เมื่อไม่มีความจริงใจต่อกันจะทำให้การอยู่ในความสัมพันธ์ยากขึ้น มาก ทำให้ความสัมพันธ์สั่นคลอนตามมาสู่ปัญหาอื่น ๆ ได้

2 ทำให้คู่รักไม่มีความเชื่อใจ

เมื่อเกิดสาเหตุแรกก็จะเชื่อมโยงไปถึงสิ่งที่เรียกว่าความเชื่อใจ คนที่ไม่ไว้ใจคู่รักของตัวเองอย่างไร้สาเหตุ

ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมที่คอยตามเช็ค(ไม่รวมคนที่เคยถูกนอпใจ ถูกทำร้ า ยความไว้วางใจ)

เมื่อคุณไม่ไว้ใจคนรักมักจะทำให้ความรักสั่นคลอนและมีปัญหา อีกฝ่ายจะรู้สึกว่า เขาไม่น่าไว้ใจหรือเปล่า?

3 ไม่ซื่อสัตย์

คือ ไม่ซื่อสัตย์ เมื่อเกิดปัญหาแล้วคุณแก้ไขไม่ตรงไปตรงมา เลือกที่จะแก้ไขด้วยการคุยกับคนอื่น พฤติกรรมนี้จะนำมาซึ่งการนอпใจได้เช่นกัน

อาจใช่ที่บางครั้งคนที่มีพฤติกรรมไม่ซื่อสัตย์ มีเหตุผลบางอย่างของตัวเอง แต่โดยทั่ว ๆ ไป ที่รับรู้กันคือ เมื่อเกิดพฤติกรรมไม่ซื่อสัตย์

เป็นสิ่งที่ทำลายความสัมพันธ์ให้ความสัมพันธ์มีปัญหา อาจไม่จบลงในวันนี้แต่จะจบลงในวันข้างหน้าได้อย่างแน่นอน

4 ไม่ให้อิสระ จู้จี้จุกจิก

ไม่ให้อิสระ จู้จี้จุกจิก จะส่งผลต่อความรู้สึกอีกฝ่าย สร้างความอึดอัดให้อีกฝ่าย การไม่ให้อิสระกับเขา ไม่ให้เขาได้เป็นตัวของตัวเองได้ใช้ชีวิตของตัวเอง

ไม่นานก็จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัดได้ แต่ในกรณีที่แฟนคุณเคยนอпใจแล้วคุณจู้จี้จุกจิกมันก็สมเหตุสมผล เพราะคุณยังอยากรักษาความสัมพันธ์นี้ไว้

5 ชอบพูดไม่คิด

พูดไม่คิด/พูดตอกย้ำความผิดของอีกฝ่าย อาจไม่ได้ส่งผลกระทบในตอนนั้น แต่จะสะสมไปเรื่อย ๆ ถึงเป็นคำพูดเล็กน้อย อีกฝ่ายอาจรู้สึกไม่ชอบได้

บางทีคุณใกล้ชิดกันจนลืมตระหนักถึงจิ ตใจของอีกฝ่าย ลืมคิดว่าหากพูดไปแล้วอีกฝ่ายจะรู้สึกอย่างไร ทำอะไรควรนึกถึงใจอีกฝ่ายด้วย

6 ชอบโกหก

โกหก อาจมีเหตุผลบางอย่างส่วนตัวบุคคล แต่เมื่อโกหกบ่อย ๆ ก็ทำลายความไว้ใจได้ ทำให้ความสัมพันธ์ไม่มั่นคง

เมื่อมีเรื่องโกหกที่ทำร้ า ยจิ ตใจกัน ในระยะยาวอาจต้องคิดว่าจะอยู่กันได้ไหม

7 การคดโกง

การคดโกง เป็นการทำลายโดยชัดเจน เช่น ทำธุรกิจร่วมกัน แล้วเกิดการโกงเงิน มันค่อนข้างสั่นคลอนชีวิตคู่มาก

ทำให้อีกฝ่ายฉุกคิดในหัวว่า จะแต่งงานกับคนที่โกงจริง ๆ หรอ เมื่อเกินลิมิตที่คน ๆ นึงจะทนได้

จะเกิดเป็นรอยร้าวจนแตกออกจากกันในที่สุด เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร แม้แต่พี่น้องยังทะ เลาะกันเรื่องเงินได้ หากมาในรูปแบบคู่รักคงหนักยิ่งกว่า

8 มีพฤติกรรมที่รุนแรง

พฤติกรรมรุนแรง คนเราขัดแย้งเป็นเรื่องปกติ ทะ เลาะกันขึ้นอยู่กับระดับ มีอารมณ์รุนแรงโกรธได้ แต่เมื่อใดก็ตาม

ที่คุณแสดงพฤติกรรมรุนแรงออกมาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เป็นสิ่งที่ยากต่อการยอมรับได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น

ทำร้ า ยทางกาย โมโหรุนแรง ควบคุมตัวเองไม่ได้ กลั่นแกล้งอีกฝ่าย แม้แต่ไม่ทำร้ า ยร่างกายโดยตรงทำลายข้าวของแทน ก็เป็นสิ่งที่ทำให้บั่นทอนความรู้สึกได้

9 การนอпใจ

การนอпใจ เป็นสิ่งที่ทำลายชีวิตคู่โดยตรง เมื่อทำแล้วอีกฝ่ายรู้สึกเจ็บปวดอย่างแน่นอน ไม่มีใครสามารถยอมรับได้โดยตรงและปัญหาในทุก ๆ ข้อที่กล่าวไปข้างต้น

จะรวบรวมอยู่ในคำเดียว คือนอпใจ หากเกิดการนอпใจ ความไว้เนื้อเชื่อใจที่ถูกทำลายไปแล้ว จะไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิมได้

อาจจะมีบางคนที่เอากลับมาได้ แต่อีกฝ่ายต้องใจกว้างมาก ใช้เวลานาน มาก ๆ กว่าจะกลับมาไว้ใจเชื่อใจอีกครั้ง หลาย ๆ คู่คิดว่า

เขาไม่รู้จะทนเหนื่อยแบบนี้ต่อทำไม เพราะความรักดี ๆ คนรักดี ๆ หาจากที่อื่นได้ จึงเกิดการเลิกลากันไป

ส่วนการนอпกาย อาจอยู่ที่ความรู้สึกของอีกฝ่ายว่า รู้สึกอย่างไรกับการกระทำของคุณ และหากคุณรักอีกฝ่ายมากพอ

คุณจะอยู่กับเขาทั้งกายและใจไม่ไปหาใครอื่นแน่นอน แต่สำหรับบางคู่อาจจะเป็นประเภทที่ยอมรับได้ ขึ้นอยู่กับข้อตกลงร่วมกัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *