จดทะเบียนสมรสก็แล้ว แต่โดนนอпใจ แบบนี้ฟ้องชู้ได้ไหม?

อยากฟ้องชู้ ฟ้องกิ๊ก ฟ้องบ้านเล็ก ทำได้ไหมนะ ?

ก่อนจะทำการฟ้อง มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า หลักๆ การดำเนินคดีฟ้องชู้ กิ๊ก บ้านเล็กบ้านน้อย ผู้ฟ้องจะต้องมีทะเบียนสมรส หรือว่าง่ายๆ ต้องมีการจดทะเบียนสมรสเป็นเรื่องเป็นราวเสียก่อน หากไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน จะไม่สามารถฟ้องร้องได้ แม้ว่าจะมีคนรับรู้โดยทั่วกันว่าเป็นสามีภรรยา

โดยการที่เราจะฟ้องชายชู้ หรือหญิงชู้ จะเป็นการฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทน จากตัวชายชู้ หรือหญิงชู้ นับว่าเป็นคดีแพ่ง ตามประมวลกฎห ม ายแพ่ง และพาณิชย์ มาตรา 1523 และการฟ้องร้องค่าทดแทนจากชู้ ก็ไม่จำเป็นต้องฟ้องหย่ากับสามีหรือภรรยาก่อน

หรือจะเลือกฟ้องหย่ากับสามีหรือภรรยาโดยอ้างเหตุตามมาตรา 1516 (1) และเรียกค่าทดแทนจากทั้งสามีหรือภรรยา และผู้ที่เป็นชู้ได้ทั้งสองคน ตามมาตรา 1523 ก็ได้เช่นกัน

แน่นอนว่า คำว่าชู้ในที่นี้ ยังรวมไปถึงกรณีที่ชู้ดั่งกล่าว เป็นเ พ ศเดียวกันกับสามี หรือภรรยาที่นอпใจได้ด้วย หากอีกฝ่ายหนึ่งมีหลักฐานเป็นเหตุให้ต้องฟ้องหย่า ตามมาตรา 1516 (1) ภริยาหรือสามีมีสิทธิได้รับค่าทดแทนและจากผู้ซึ่งได้รับอุปการะเลี้ยงดู หรือยกย่องผู้ซึ่งเป็นเหตุแห่งการหย่านั้น เช่นกัน

ในทางกลับกัน ทางกฎห ม ายได้กำหนดไว้ว่า ถ้าเป็นการแ อ บลักลอบไปร่วมประเวณีเป็นครั้งคราว หรือการไปซื้อบริการทางเ พ ศ จะยังไม่ถือว่าเป็นชู้ และยังไม่มีความผิดตามกฎห ม ายมาตรา 1523 นี้ และศาลหลายแห่งอาจจะเลือกยกฟ้องได้

สรุปโดยรวมแล้ว หากอยากฟ้องชู้เพื่อเรีกยร้องค่าเสียหาย คุณจำเป็นจะต้องจดทะเบียนสมรสกับคู่ของคุณเสียก่อน และการฟ้องร้องนี้ สามารถทำได้ แม้สามีกับภรรยาจะไม่หย่ากันก็ตาม ซึ่งค่าทดแทน ค่าเสียหาย ศาลจะเป็นผู้ประเมินให้ตามชื่อเสียงของผู้เสียหาย แต่ถ้าหากฟ้องหย่า ก็สามารถเรียกค่าทดแทนจากทั้งฝั่งชู้ และคู่สมรสได้อีก

ก่อนฟ้อง ต้องรู้อะไรบ้าง?

อย่างที่ด้านบนได้กล่าวไป การฟ้องหย่า ฟ้องร้องเรียกค่าทดแทนจากชู้นั้น สามารถทำได้ แต่นั้นห ม ายความว่า ผู้ฟ้องจะต้องมีหลักฐานที่แน่นอนหนา และเพียงพอ ไม่เช่นนั้น นอпจากจะถูกศาลยกฟ้องแล้ว คุณอาจจะถูกอีกฝ่ายฟ้องสวนกลับ เพื่อเรียกค่าเสียหายคืนจากการเบิกความเท็จ หรือโดนฟ้องในฐานะหมิ่นประมาทได้ ซึ่งไม่คุ้มค่าแน่ๆ

ดังนั้น หากต้องการจะฟ้องร้องจริงๆ หลัก ฐาน และการวางแผนของที่ปรึกษากฎห ม ายมีส่วนสำคัญจำเป็นยิ่ง หลีกเลี่ยงทนายที่ตอบเพียงแต่ข้อกฎห ม ายถูกผิด แพ้ชนะ แล้วยุให้ฟ้อง โดยไม่ได้ป้องกันระวัง หรือวางแผนอย่างรอบครอบ

โดยก่อนจะฟ้อง คุณอาจจะต้องสำรวจกันก่อนว่า ผู้ที่เป็นชู้นั้น รู้ตัว หรือทราบหรือไม่ ว่าคนที่ตนกำลังคบหาอยู่กับคู่สมรสของคุณหรือไม่ เพราะบางครั้ง คนเหล่านี้อาจจะไม่ทราบมาก่อนว่าตนกำลังเป็นชู้ ซึ่งเราอาจจะตกลงกันได้

ส่วนชู้ประเภทที่สมัครใจเป็น บางรายอาจจะยอมรับได้ บางรายอาจจะแสดงออกชัดเจนว่าต้องการเป็นตัวจริง ซึ่งประเภทนี้อาจะรับมือได้ยาก หลักฐานจำเป็นต้องแน่นหนา เพราะอีกฝ่ายอาจมีการเตรียมตัวเป็นอย่างดี ในการปฎิเสธทุกข้อกล่าวหาที่ฟ้องไป และประเภทนี้ หากเราไม่ระวังให้ดี ก็อาจโดนฟ้องกลับในฐานะหมิ่นประมาทได้เช่นกัน

สำหรับใครที่ต้องการจะฟ้องชู้อยู่แล้ว ทนายหลายแห่งได้ให้คำแนะนำไว้ว่า คุณไม่ควรประจานอีกฝ่าย ที่เป็นชู้ เพราะนอпจากจะทำให้ตามเก็บหลักฐานได้ยากขึ้นแล้ว อีกฝ่ายอาจฟ้องคุณกลับ ในฐานะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงได้ แม้ว่าการเป้นชู้ดัง่กล่าวจะเป็นเรื่องจริงก็ตาม

นอпจากนี้ หลักฐานทุกอย่างที่เราหามาได้นั้น จะมีอายุความ 1 ปี ห ม ายความว่า เราต้องฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่ที่รู้ หรือมีหลักฐาน ถ้าปล่อยปละละเลยเกิน 1 ปี จะถือว่าไม่ติดใจในการที่จะดำเนินคดี หากเป็นการจ้างนักสืบหาหลักฐาน หลักฐานทุกอย่างจะมีเวลา วัน/เดือน/ปี ที่บันทึกภาพ หรือคลิป ดังนั้นจึงควรคิดให้ดี ว่า ยังอยู่ในขอบเขตของอายุความหรือไม่

ซึ่งปัจจุบันคดีชู้สาวลักษณะนี้ใช้เวลาไม่นาน โดยทั่วไป จะใช้เวลาไม่เกิน 3 – 5 เดือน ตั้งแต่ขั้นตอนการฟ้อง ให้จำเลยยื่นคำให้การ เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย หากตกลงไม่ได้ก็เข้าสู่กระบวนการพิจารณาต่อไป

จะฟ้องทั้งที หลักฐานต้องแน่น

อย่างที่ทราบกันดี การจะฟ้องให้ได้ผลต้องมีหลักฐานแน่นหนา เพื่อเป็นการยืนยันว่าคู่สมรสมีชู้จริงๆ และผู้ที่เรากล่าวฟ้อง เป็นชู้ของคู่สมรส หลักๆ แล้ว จะมีหลักฐาน ดังนี้

– ชื่อ และนามสกุล ของชายชู้ หรือหญิงชู้ เพราะถ้าไม่รู้ชื่อ – นามสกุลอีกฝ่าย ก็ฟ้องไม่ได้ ต่อให้มีหลักฐานที่ชัดเจน มากก็ตาม

– หลักฐานว่ามีความสัมพันธ์ชู้สาวกัน พาสามี หรือภรรยา ไปทำชู้ตามสถานที่ต่างๆ พากันเข้าห้องในสถานที่ส่วนบุคคล เช่น โรงแรม หรือสอร์ท ฯลฯ หรือตามสถานที่สาธารณะต่างๆ เป็นต้น โดยหลักฐานอาจเป็น รูปถ่าย หรือคลิป ภาพถ่ายทางสื่อสังคมออนไลน์, คลิปเสียงการสนทนา หรือภาพกล้องวงจรปิด

– ข้อความในแชทต่างๆ รวมถึงการโพสต์ในสื่อ โซเชียลมีเดีย ก็ถือว่าเป็นหลักฐานประกอบอย่างหนึ่ง เพราะมีข้อความสื่อชัดเจน สามารถนำมาประกอบการดำเนินคดีได้

– ข้อมูลการใช้โทรศัพท์ซึ่งสามารถแสดงให้เห็นได้ว่าทั้งสองคนนี้มีการโทรหาและติดต่อกันอยู่เป็นประจำ

– หลักฐานการเข้าพักตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในประเทศไทย หรือต่างประเทศ จากการถ่ายลงใน เฟสบุ๊ก ไลน์ส่วนตัว หรือสื่อโซเชียลมีเดียอื่นๆ

– ข้อมูลของการถือครอง หรือซื้อทรัพย์สินให้แก่กัน ไม่ว่าจะเป็น บ้าน, คอนโดฯ, ทาวน์เฮาส์ รวมไปถึง รถยนต์ส่วนบุคคล หรือหุ้น

– ข้อมูลด้านการเงิน ของสามี หรือภรรยา เพราะบางครั้งคู่สมรสอาจแสดงให้เห็นถึงรายการเคลื่อนไหวทางบัญชีที่ผิดปกติ เช่น มีการโอนเงินให้กันใช้, เขียนเช็คให้ฐ มีการใช้บัตรเครดิตซื้อของเพื่อมอบเป็นของขวัญแก่กันฐ แ อ บไปเปิดบัญชีใหม่โดยที่คู่สมรสไม่ได้รับรู้ด้วย หรืออุปการะเลี้ยงดูกัน

– หลักฐานหรือพยานที่แสดงให้เห็นว่า ฝ่ายผู้เป็นชู้ทราบดีอยู่แล้วว่าว่าคนที่ตนเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวนั้น มีครอบครัวอยู่

– สูติบัตรหรือทะเบียนบ้านของเด็ก ในกรณีที่คู่สมรสของคุณ มีบุตรร่วมกับชู้แล้ว

จะเห็นได้ว่า รายการหลักฐานนั้น จะต้องแน่นหนามาก บางครั้งแค่หลักฐานว่าคู่สมรส และชู้ ร่วมหลับนอนกันอาจจะไม่เพียงพอ และหลักฐานเหล่านี้ จะต้องมีระยะเวลาที่ไม่เกินอายุความด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *