ความทุ กข์คือส่วนหนึ่งของชีวิต ทุกคนก็รู้ดี ในเวลาที่เราสุข ความทุ กข์ก็ยังทำหน้าที่ของมันอยู่และเราต้องรู้ก่อนว่าความทุ กข์นั้นเกิ ดขึ้น เกิ ดจากสิ่งใดโดยที่เราเองนั้น ไม่ทันได้ตั้งตัว
1. จงยอมรับและทำความเข้าใจ
เมื่อรู้แล้วก็ค่อย ๆ คิดถึงสิ่งที่เกิ ดขึ้น ทำไมจึงเกิ ดปัญหา และปัญหานั้นนำพาความทุ กข์มาได้ไงการรู้ที่มาจะทำให้เรายอมรับและเข้าใจสิ่งต่าง ๆได้ดีขึ้นดีกว่าการไม่ยอมรับรู้อะไรสักอย่ าง เพราะมั วแต่วิตกกับปัญหาที่เกิ ดเพียงอย่ างเดียว
2. พุ่ ง ช น มันไปเลย
วิธีที่ดีที่สุดคือแก้ที่ต้นเหตุของ ความทุ กข์นั้น และอย่ าลืมว่าปัญหามีทั้งแบบแก้ได้ และแก้ไม่ได้ต้องเรียนรู้ก่อนว่าเหตุแห่งทุ กข์ของคุณนั้นเป็นยัง
ไงแก้ได้มั้ย หากเป็นทุ กข์ ที่มีทางแก้ก็จงตั้งสติและค่อยๆ แก้ไป แต่เมื่อรู้อยู่แล้วว่าเป็นปัญหาที่แก้ไขอะไรไม่ได้ ได้แต่ยอมรับมันเช่นนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่คุณจะ พุ่ ง ช น กับปัญหานั้นให้เจ็ บเปล่าๆ
3. ระบาย กับใครสักคน
ระบายกับใครสักคนก็เป็นการแบ่ งปันความทุ กข์ ได้เช่นกัน ข้อแม้คือต้องเป็นคนที่คุณไว้วางใจและเชื่อใจได้อย่ าลืมว่าปัญหาไม่ได้มีไว้แก้อย่ างเดียวแต่ปัญหายังมีไว้ให้ระบาย กับคนอื่นด้วย
4. ไม่จมอยู่กับทุ กข์ นานๆ
เมื่อรู้เหตุแห่งเกิ ดความทุ กข์ แล้ว เราต้องไม่จมอยู่กับความทุ กข์ คิดได้แต่ต้องมีสติพ ย าย ามดึงตัวเองออ กมาจากความทุ กข์ นั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่ตัวเองทำได้การไม่อยู่กับความทุ กข์นานๆ ทำให้ หลุดพ้นเร็วขึ้น การมีสติช่วยให้คิดหาวิธีดับ
ทุ กข์ ได้เร็วขึ้นเหมือนกัน
5. สร้างเ ก ร าะป้องกันให้ตัวเองมากขึ้น
ความทุ กข์คือ สิ่งที่ห ลี กห นีไม่ได้ เป็นอะไรที่ทุกคนบนโลกนี้ต้องเจอ ฉะนั้นเมื่ออย ากเอาตัวเองออ กจากความทุก ข์ก็ต้องปรับทัศนคติตัวเองใหม่ไม่ต้อง
กลั วที่จะเผชิญปัญหาจงเรียกสติและสร้างเกร าะป้องกันตัวเองเพื่อให้หลุดจากความทุก ข์ เหล่านั้นให้ได้โดยเร็วนอ กจากวิธีพาตัวเองออ กจากความทุก ข์ แล้วเราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับทุ กข์ให้ได้โดยที่ใจไม่ทุ กข์ด้วยเช่นกันนะ