8 วิธีรับมือ เมื่อเจอ กับลูกดื้อให้ได้ผลจริง

คุณพ่อคุณแม่แทบทุกคนน่าจะต้องเคยพบเจอสถานการณ์ที่ทำให้เผลอคิดหรือหลุดปากพูดออ กไปว่าทำไมลูกถึงได้ดื้ออย่างนี้

วิธีรับมือ กับเด็กดื้อให้ได้ผล

1.เด็กดื้อต้องใช้ท่าทีที่หนักแน่นและจริงจัง

เวลาที่ผู้ใหญ่ต้องการให้เด็กทำอะไรแล้วเด็กอิดเอื้อน ไม่ยอมทำ วิธีหนึ่งที่ได้ผลคือต้องพูดให้หนักแน่นและจริงจังว่าให้ทำเดี๋ยวนี้อาจต้องใช้ท่าทีประกอบด้วย เช่น ลุกขึ้น

จูงมือเด็กให้ไปทำสิ่งที่ต้องทำ เช่น เด็กอิดเอื่อนไม่ยอมทำการบ้ านแม้จะพูดเตือนแล้วหลายครั้ง แม่ต้องแสดงให้เห็นว่าแม่ห ม ายถึงว่าลูกต้องทำการบ้ านแล้วโดยบอ กด้วยเสียง

ที่หนักแน่นว่าเอาสมุดการบ้ านออ กมาแล้วนั่งลงทำเดี๋ยวนี้เลย ถ้าเด็กไม่ยอมลูกก็ต้องจูงมือไปเอาสมุด ดินสอมานั่งลงให้ทำและเฝ้าให้ทำถ้าจำเป็น

2. เด็กดื้อต้องใช้เหตุผล

การให้เหตุผลอย่างตรงไปตรงมาซึ่งเด็กสามารถเข้าใจ มักจะสามารถแก้ไขพฤติกรรมได้ในเด็กยิ่งเล็กการให้เหตุผลต้องแบบง่าย สั้นไม่พูดยืดย าว เช่น มีดเล่นไม่ได้เพราะ

จะบาดมือหนู หนูไม่ปีนขึ้นที่สูงเดี๋ยวจะตกลงมเ จ็ บ

3. เด็กดื้ออาจต้องการรางวัล

เมื่อเด็กมีพฤติกรรมที่ถูกต้องเห ม าะสมแล้ว เพื่อให้พฤติกรรมนั้นเกิดขึ้นอีกไม่หายไป ผู้ใหญ่ควรให้รางวัลสำหรับพฤติกรรมนั้นอาจเป็นการกล่าวชมด้วยวาจา แสดงกิริย าชื่นชม

พอใจในพฤติกรรมนั้น เช่น โอบกอด ลู บหัว ปัญหาคือผู้ใหญ่มักจะละเลยไม่กล่าวคำชมเชยเด็ก เพราะเห็นเป็นพฤติกรรมธรรมดาๆ เช่นเด็กยอมแปรงฟั นเองแต่งตัวเอง แต่จะดุว่า

หรือติเตียนเด็กเมื่อเด็กไม่ยอมช่วยตัวเอง การให้รางวัลเด็กอาจให้ได้อีกแบบคือ ให้เมื่อเด็กหยุดพฤติกรรมที่ไม่เห ม าะสม (Omission training) เช่น กล่าวชมเชยหรือให้รางวัล

แบบอื่นเมื่อลูกสองคนเล่นกันด้วยดีไม่ทະ เลาະไม่ตีกันในช่วงตลอดสองวันที่ผ่าน มา

4. เด็กดื้อต้องปล่อยให้สามารถแสดงความคิดเห็นและความรู้สึก

ควรให้เด็กรู้สึกว่าเมื่อมีความคิดเห็นอย่างไรก็สามารถพูดออ กมาได้อย่างอิสระ หรือมีความรู้สึกอย่างไรก็สามารถพูดคุยชี้แจงได้ เช่น เด็กอาจต้องการตัดสินใจเองในการเลือ ก

ของใช้ส่วนตัว ไม่ใช่แม่เลือ กให้ แล้วเด็กต้องใช้ทั้งที่ไม่ชอบไม่ถูกใจ

5. เด็กดื้อต้องการเห็นแบบอย่างที่ดีของผู้ใหญ่ให้กับเด็ก

ผู้ใหญ่โดยเฉพาะพ่อแม่ควรทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก พฤติกรรมส่วนใหญ่ของมนุษย์นั้น มาเรียนรู้ภายหลังไม่ใช่ถ่ายทอดตามพันธุกรรมอย่างที่หลายๆ คนเข้าใจ เด็กจะเอา

อย่างผู้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ชิด โดยดูจากการกระทำของผู้ใหญ่มากกว่าการสั่งสอนด้วยวาจา เช่นพูดสอนว่าการพูดปดเป็นสิ่งไม่ดีห้ามทำแต่พอมีคนที่พ่อแม่ไม่ต้องการพบมาพบ

ก็ใช้ลูกออ กไปบอ กว่า พ่อแม่ไม่อยู่บ้ าน การกระทำแบบนี้ก็เท่ากับสอนลูกว่าที่จริงพูดปดได้

6. เด็กดื้อต้องใช้สิ่งทดแทน

เวลาห้ามไม่ให้เด็กทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด ควรสอนเด็กไปด้วยว่าสิ่งไหนที่ทำแทนได้ เช่น เด็กเล่นของแหลมอยู่จะเอาจากมือเด็กก็ให้เอาของอื่นที่น่าสนใจกว่ามาให้เด็กแทน ไม่ควรหยิบ

ของแหลมจากมือเด็กเฉยๆ ซึ่งเด็กจะร้องอาละวาดต่อ หรือเห็นเด็กขีดเขียนฝาผนังบ้ านอยู่ห้ามไม่ให้ทำเพราะสกปรกบ้ าน ก็ควรหากระดาษมาให้เด็กได้เขียนแทน เป็นต้น

7. เด็กดื้ออาจต้องใช้การเลิกให้ความสนใจ

เป็นธรรมชาติของเด็กทุกคนที่ต้องการได้รับความสนใจจากผู้อื่น ฉะนั้น เมื่อเด็กมีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์เราอาจใช้วิธีเลิกให้ความสนใจขณะที่เด็กกำลังกระทำพฤติกรรมนั้น

และให้ความสนใจหรือให้รางวัลกับเด็กที่มีพฤติกรรมที่เราต้องการแทน ตัวอย่าง เช่น ลูกคนหนึ่งกินอ าห า รดีอีกคนไม่ค่อยยอมกินเล่นไปเรื่อยๆแม่ก็อาจชมคนที่กินอ าห า รดีแต่เฉยๆ

ไม่แสดงความสนใจกับลูกคนที่ไม่ยอมกินแต่เขี่ยอ าห า รเล่นอยู่ โดยไม่จำเป็นต้องดุว่า

8. การลงโทษเด็กดื้อ

โดยทั่วไปจะพย าย ามไม่ใช้การลงโทษ นอ กจากวิธีอื่นๆ ที่กล่าวมาแล้วไม่ได้ผลสิ่งสำคัญที่สุดคือเวลาใช้การทำโทษนี้ผู้ใช้ต้องไม่ใช้ด้วยอารมณ์โกรธ เก ลี ย ดไม่ชอบเด็ก เพราะ

จะทำให้เด็กยิ่งต่อต้าน เวลาใช้ควรแสดงให้เด็กเห็นว่าเราต้องการเพียงหยุดพฤติกรรมที่ไม่เห ม าะสมเท่านั้นและพร้อมที่จะหยุดการลงโทษเมื่อเด็กคิดว่าสามารถควบคุมตัวเอง

ให้ไม่ประพฤติไม่เห ม าะสมอีก การลงโทษมีตั้งแต่เบาๆ จนไปถึงระดับที่รุ นแ ร งขึ้น ดังนี้

8.1 การดุว่า การดุว่าด้วยวาจาในเด็กบางคนก็ได้ผลดี สามารถหยุดการกระทำอันไม่สมควรของเด็ก ควรใช้เมื่อ การบอ กห้าม และการใช้เหตุผลไม่ได้ผลแล้ว

8.2 แยกเด็กออ กไปอยู่ตามลำพัง เช่น เด็กนักเรียนคนหนึ่งคุยมากขณะเรียน รบกวนคนอื่นบ่อยๆ ก็อาจแยกเด็กไปนั่งคนเดียว หันหน้าเข้ามุมห้อง ทำให้เด็กไม่สนุก เ บื่ อที่เด็กทั่วไปจะไม่ชอบอย่างมาก

8.3 การปรับ ให้เด็กรับผิดชอบกับของเสียหายที่เด็กทำไป เช่น เด็กคนหนึ่งโกรธแม่ที่ขัดใจ แล้ววิ่งไปถอนต้นไม้ของแม่ที่เพิ่งปลูก จึงให้แม่หักเงินค่าขน มเด็ก ทีละเล็กละน้อยชดใช้ค่าต้นไม้ที่ซื้อมา

8.4 การตี การตีอาจทำให้เด็กหยุดประพฤติที่ไม่พึงประสงค์ได้บางครั้ง แต่การใช้กำลังกับเด็กมีข้อเสียด้วย คือ ถ้าใช้บ่อยๆ จะทำล า ยความสัมพันธ์ ระหว่าง เด็กและผู้ใหญ่

และเด็กจะใช้วิธีรุ นแ ร งและใช้กำลังบ้ างเพราะเอาอย่างผู้ใหญ่และรู้สึกคับข้องใจที่ผู้ใหญ่ใช้วิธีรุ นแ ร งกับตน เช่น อาจไปชกต่อยเพื่อนที่โรงเรียนบ่อยๆ จนเป็นปัญหาเกิดขึ้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *