ชีวิตมนุษย์เงินเดือนที่เพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่กี่ปี แค่จะมีเงินเก็บสักหนึ่งแสนบาทให้ได้ก่อนอายุ 25 ปีคงเป็นเรื่องยาก
เรากำลังจะบอ กว่า มันไม่ยากเสมอไปถ้าจิ ตใจคุณจดจ่อ กับเป้าห ม ายมากพอและลงมือทำจริงจังกับเทคนิคง่ายๆ ที่ให้ผลลัพธ์เกิดคาด
รับรองว่า ไม่ต้องหารายได้เสริม ไม่ต้องเพิ่มรายได้ แต่มนุษย์เงินเดือนอย่างเราทุกคนทำได้แน่นอน หากรู้จักเก็บรู้จักใช้อย่างมีวินัยและมีหลักการ
เทคนิคแรกที่สุดเบสิกและคลาสสิก
คือ ต้องรู้จัก “ทำบัญชีรายรับรายจ่าย” ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่หลายคนกลับละเลย นับเป็นพื้นฐานที่สำคัญของทุกเรื่องที่เกี่ยวกับเงิน หากไม่ตั้งต้นที่จุดนี้
ก็เหมือนเดินทางโดยไม่มีแผนที่ การทำบัญชีรายรับรายจ่ายจะช่วยทำให้เรารู้ว่า เรามีเงินเท่าไหร่ เราใช้จ่ายอะไรไปแค่ไหน มีเงินเหลือเก็บหรือไม่ แล้วเดือนต่อไปจะทำอย่างไร
เมื่อเรามีบันทึกไว้ให้เห็นเป็นหลักฐานแล้ว เวลาเราจะจ่ายเงินออ ก เราก็จะหยุดคิดก่อนว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร แม้ว่าหลายครั้งที่ความอยากได้พุ่งถึงขีดสุดกับเทศกาลลดราคาที่ทำให้อะดรีนาลีนฉีดพล่าน
แต่เราจะหักลบตัวเลขในหัวได้ทันทีเมื่อมีบัญชีรายรับรายจ่ายอยู่ใน มือว่า หากเราเสียเงินออ กไปตอนนี้ ก็อาจอยู่รอดไม่ถึงปลายเดือน หรือความฝันเงินแสนที่เราอยากเก็บให้ได้ก็จะหลุดลอยไป
เทคนิคที่สอง
คือ “แบ่งเงินออมไว้ก่อนเสมอ” ทุกครั้งที่ได้เงิน มา ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน ค่าทำโอที รายได้พิเศษหรืออะไรที่เป็นรายรับ ควรแบ่งออ กมาเป็นเงินเก็บก่อน
อย่างน้อย 10% ของรายรับ ย้ำว่า นี่คือขั้นต่ำที่ต้องเก็บ แต่ถ้าใครอยากทะลุเป้าห ม ายเร็วๆ อยากจะเก็บในสัดส่วนที่มากกว่านี้
เช่น 20% หรือ 30% ควรแยกบัญชีไว้ต่างหาก ไม่ควรปนกับบัญชีใช้จ่ายประจำวัน เทคนิคนี้ควรทำสม่ำเสมอ ยิ่งถ้าเรามีรายได้เท่าๆกันทุกเดือน
ยิ่งคำนวณเวลาถึงเป้าห ม ายได้ไม่ยาก และทำให้กลายเป็นการสร้างวินัยการออมที่ช่วยให้เห็นผลสำเร็จได้เป็นรูปธรรมมากขึ้น
ทั้งนี้ก็อย่าเร่งรัดตัวเองมากจนเกินไป หากจัดสัดส่วนเงินเก็บที่มากเกินไปจนทำให้การใช้ชีวิตประจำวันไม่มีความสุข
ก็ควรพิจารณาหาความสมดุลให้กับชีวิต ซึ่งเรื่องนี้ตัวเราเองย่อมรู้ดีที่สุด ไม่ควรเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร
การแบ่งเงินออมออ กจากรายได้ตั้งแต่เริ่มต้นนี้ ถ้าจะให้ละเอียดขึ้นไปอีกและมีกลยุทธ์ที่แยบยลมากขึ้น แนะนำว่าให้แบ่งเงินโดยระบุเป้าห ม ายไปเลยว่า
เงินก้อนนี้เก็บเพื่อเรียนต่อ เงินก้อนนี้เก็บเพื่อเที่ยวต่างประเทศ เงินก้อนนี้เก็บไว้ใช้ยามฉุ п เ ฉิ น การระบุเป้าห ม ายการเก็บเงินนี้จะยิ่งทำให้เราไม่ละทิ้งความพยายามโดยง่าย
เพราะเป็นการช่วยให้เราถึงเป้าห ม ายระยะสั้นๆทีละก้อน เช่น หากปีนี้เรารู้สึกว่า เรื่องการเรียนต่อเป็นสิ่งสำคัญที่สุดกับชีวิตเรา
ก็อาจจะแบ่งมาไว้เก็บในส่วนนี้มากกว่าเรื่องอื่นๆ เป็นการจัดลำดับความสำคัญ มีระเบียบความคิดชัดเจน จิ ตใจก็จะไม่ห ล งทางไปกับรายจ่ายล่อใจอื่นๆ ได้ง่าย
หากทำสองข้อแรกได้แล้ว รับรองว่าอยากจะออมเงินแสน ก็ไม่สายเกินไปสำหรับวัยทำงานเริ่มต้น หากเราได้ขยับตำแหน่งมีรายได้เพิ่มขึ้นหรือได้โบนัสมา
ซึ่งถือเป็นรายได้ที่นอ กเหนือจากเงินเดือนประจำ ก็ให้เริ่มหัน มาใช้ “เทคนิคการเก็บแบบงอ กเงย” ในรูปแบบการซื้อ กองทุน หรือประกันชีวิตที่จะมีผลตอบแทนงอ กเงยได้มากกว่า
