5 อย่างที่ควรจะมี ตอนอายุ 30!

ในทุกวันนี้ สิ่งหนึ่งที่เราคงลืมคิดไม่ได้เลยก็คือ การมีหน้าที่การงานดีๆ มีเงินหาเลี้ยงดูแลตัวเอง ดูแลครอบครัว ดูแลพ่อแม่ มีเงินซื้อสิ่งของต่างๆ

ซึ่งไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สิ่งของต่างๆเหล่านี้ไม่ว่าใครก็สามารถมีได้นะแต่ติดอยู่อย่างหนึ่งก็คือ เราจะเริ่มมีมันเมื่อตอนที่เราอายุเท่าไหร่กันล่ะ

บางคนก็อาจจะวางแผนว่าอายุ 25 จะมีงานทำงาน อายุ 30 จะมีครอบครัว อายุ 35 ก็จะมีบ้าน มีรถ ซึ่งไม่ว่าอย่างไรก็ตามการที่เราเริ่มวางแผนถึงสิ่งที่เราอยากจะมีไว้

ก็เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากเลยนะเหมือนกับได้กำหนดเป้าห ม ายของตัวเอง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเรามาดูกันเลยดีกว่าว่าตอนเราอายุ 30 เราควรจะมีอะไรกันบ้างแล้ว

มีแหล่งที่มาของรายได้ที่มั่นคง

รายได้ที่มั่นคงนี้ นับได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากเลยล่ะที่จะชี้อนาคตของเราว่าจะเป็นอย่างไร ถ้าหากว่าเราอายุ 30 แล้วยังไม่มีงานที่จะทำให้เรามีรายได้ที่มั่นคงสักเท่าไหร่

อย่างเช่นได้เงินเมื่อมีงานเข้ามาเป็นครั้งเป็นคราว ในขณะที่มีงานเข้ามานั้น เราก็มีเงิน มีกิน มีใช้ต่างๆแต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราอยู่ในช่วงที่ว่างงาน ไม่มีงานเข้ามา รับรองได้เลยว่าในอนาคตของเรามีปัญหาอย่างแน่นอน

การหาแหล่งรายได้ที่สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับเรา จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากเลยล่ะ ซึ่งสำหรับมนุษย์เงินเดือนก็ไม่ใช่ปัญหาสักเท่าไหร่ แต่ถ้าหากเป็นเหล่านักธุรกิจที่บริษัทไม่ค่อยมั่นคงหรือคนที่ทำงานฟรีแลนซ์ ก็คงต้องตื่นตัวกันหน่อยแล้วล่ะ

มีเงินทุนไว้ใช้ยามฉุ п เ ฉิ น

อะไรหลายๆอย่างที่กำลังจะเข้ามาในอนาคตสำหรับเรานี้ แน่นอนว่ามีทั้งเรื่องที่ดีและเรื่องที่ร้ า ยนะ ถ้าหากเป็นเรื่องที่ดี ช่วยให้เรามีเงินเพิ่มมากขึ้น มีงานเสริมหรือได้เลื่อนขั้น ถือว่าเป็นโชคดีที่ช่วยให้เรามั่นคง

แต่ถ้าหากว่าเราเจอเรื่องร้ า ยๆที่ต้องเสียอย่างเช่นเรื่องอุบัติเหตุ เรื่องปัญหาสุขภาพและอื่นๆอีกมากมายที่ทำให้เราเสียเงิน ถ้าหากว่าเราไม่มีเงินทุนไว้ใช้ยามฉุ п เ ฉิ นแล้ว รับรองได้เลยว่าเมื่อเกิดเรื่องร้ า ยๆขึ้น ก็อาจจะกระทบกับเงินของเราในแต่ละเดือนไม่น้อยเลยล่ะ

วางแผนเรื่องครอบครัว

อายุ 30 ก็เป็นช่วงสำคัญในการสร้างฐานะ สร้างตัวและที่สำคัญคือเป็นวัยที่กำลังเห ม าะแก่การพูดถึงเรื่องครอบครัวนะ ซึ่งการวางแผนเรื่องครอบครัว อาจจะดูเป็นสิ่งที่ค่อนข้างปวดหัวไม่น้อยเลยล่ะ

เพราะด้วยค่าใช้จ่ายที่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆภายในบ้าน ค่าเทอมของลูกน้อย ค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกมากมายที่เกี่ยวกับคนในครอบครัว

และที่สำคัญด้วยราคาสินค้า สิ่งของ ค่าครองชีพในยุคปัจจุบันที่สูง ยิ่งทำให้ค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้น ยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก

สำหรับครอบครัวไหนที่วางมีรายรับทางเดียว อย่างเช่นทำงานค้าขายหรือเงินเดือนจากคุณพ่อคนเดียว ก็ต้องวางแผนไว้ดีๆและก็ต้องวางแผนสัดส่วนเงินให้ดีนะ

เริ่มวางแผนซื้อบ้าน วางแผนซื้อรถ

ที่อยู่อาศัยและพาหนะที่ช่วยในการเดิน เป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยเลยล่ะ ซึ่งการที่จะได้ทั้งสองสิ่งนี้ในยุคปัจจุบัน อาจจะเป็นเรื่องที่ง่ายนะ เพราะมีสถาบันการเงินต่างๆที่พร้อมที่จะยื่น มือเข้ามาช่วย

เพื่อที่จะทำให้เรามีทั้งบ้าน มีทั้งรถยนต์และอื่นๆอีกมากมายที่เราอยากได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามด้วยความง่ายในการซื้อของต่างๆเหล่านี้ ก็ทำให้เรามีปัญหาได้ง่ายกว่าเดิมเช่นกัน ทั้งเรื่องหนี้สินต่างๆที่จะเกิดขึ้นจากการซื้อรถยนต์และซื้อบ้าน

ซึ่งถ้าหากใครเลือ กที่จะมองข้ามการซื้อบ้านเป็นหลักเป็นแหล่งเพราะมีราคาที่แพงเกินไปและเลือ กที่จะเช่าอยู่แทน ก็อยากให้ลองคิดใหม่นะ

สมมุติว่าเราเช่าที่พักในราคา 3,000 บาทต่อหนึ่งเดือน ในระยะเวลา 1 ปี เราจะต้องจ่ายเงินค่าเช่าที่พักเป็นเงินถึง 36,000 บาทกันเลยทีเดียว

และเราต้องทำงานอยู่นั่นหรือว่าทำงานอยู่แถวๆนั้นประมาณ 10 ปี ก็เท่ากับว่าเราจ่ายเงินถึง 360,000 กันเลยทีเดียว อาจจะดูน้อยก็จริงแต่การเช่าที่พักอยู่นั้นก็ทำให้เราพลาดอะไรหลายๆอย่างไป

พลาดเรื่องของการมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักเป็นแหล่ง พลาดเรื่องของความสะดวกสบายและความรู้สึกส่วนตัวต่างๆ ซึ่งถ้าหากเราเปลี่ยนจากการจ่ายเงินค่าเช่าเดือนละ 3,000 บาท

เป็นผ่อนบ้านเดือนละ 8,000 บาทแทนล่ะ รับรองได้เลยว่าผ่านไป 10-20 ปี เราจะมีความสุขอย่างมากเลยล่ะกับการมีบ้านเป็นของตัวเอง

วางแผนจัดการหนี้สิน

การที่เราอายุถึง 30 แล้วไม่มีหนี้สินแต่สามารถมีสิ่งของต่างๆได้ ก็ถือว่าเก่งมากเลยล่ะเพราะคนส่วนใหญ่แล้วเมื่ออายุ 30 ก็ต้องมีหนี้สินติดตัวมาประมาณนึง

ซึ่งการวางแผนจัดการหนี้สินนั้น จะช่วยเราได้อย่างมากเลยล่ะในการดำเนินชีวิตอยู่ต่อ เพราะถ้าหากเราวางแผนจัดการดี ปัญหาหนี้สินเหล่านี้จะดูเป็นเรื่องเล็กและสามารถชำระให้หมดได้อย่างง่ายดาย

แต่ถ้าหากใครเลือ กที่จะใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย ซื้อของที่อยากได้ รับรองได้เลยว่าได้มีปัญหาเรื่องการเงินในอนาคตแน่นอน

สำหรับใครที่มีอายุถึงแล้วแต่ว่ายังไม่มีบางสิ่งบางอย่างก็ไม่เป็นไร เราก็สามารถที่จะวางแผนขยับจาก 30 เป็น 35 ไปก่อนก็ได้ เพราะว่าบางสิ่งบางอย่างนั้นก็ไม่สามารถทำได้เมื่อ

ตอนอายุ 30 แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามก็ควรที่จะติดวางแผนไว้ก่อนนะ แต่ถ้าหากใครที่ยังไม่ได้กำหนดเป้าห ม าย ก็ลองตั้งเป้าดูสิ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *