มันเป็นช่วงวัยชีวิตที่สามารถพูดคำเดียวเลยนะคะว่าจำเป็นเป็นอย่างมากเลยทีเดียวที่จะต้องรู้จักการใช้จ่าย รู้จักเก็บ รู้จักออม เพราะอย่างที่เห็นกันเป็นตัวอย่างที่มากพอแล้ว
ตอนต้นนั้น มีเงินกินเงินใช้อย่างเหลือเฟือ แต่บั้นปลายชีวิตนี่สิ มันช่างทรมานเป็นที่สุด บางคนใช้จ่ายตอนต้นจนไม่เหลือและเผื่ออนาคตไว้ในวันที่ตนเองไม่สามารถที่จะหาเงินได้แล้ว
ก็ไม่ต่างจากบุคคลที่ไร้ทุพลภาพเลยนั่นเอง เมื่อถึงเวลานั้นเสยจริงๆ บอ กได้คำเดียวเลยว่า ไม่สามารถกลับมาแก้ไข หรือทำการเปลี่ยนแปลงอะไรแล้วได้อีกเลย
หากวันนี้เรายังมีกำลัง ยังมีแรงที่จะเก็บออม หรือ ใช้เงิน จ่ายอย่างสมเหตุสมผล เชื่อได้เลยว่าวันต่อไปข้างหน้านั้นจะไม่ลำบากอย่างแน่นอน
เป็นเรื่องที่ง่ายมากๆหากเราทำได้ด้วยใจ เพียงแค่การวางแผนที่ดี รู้เหตุผล รู้จักการใช้จ่าย และรู้สิ่งที่ควรหรือไม่ควร เพียงไม่กี่อย่างเท่านี้เชื่อได้เลยว่าอนาคตบั้นปลายของคุณนั้นจะไม่เป็นไปอย่างที่เคยเห็นกัน มาอีกเลย
แต่ทั้งนี้คุณต้องมีความตั้งใจและสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองว่าทำได้เป็นกำลังใจนั่นเอง โดยการวางแผนการ ใช้เงิน ที่ง่ายและเห็นผลมากที่สุดมีดังต่อไปนี้
1. การตั้งเป้าห ม ายตามฝัน
เหมือนเป็นการปักธงอย่างชัดเจนว่านี่คือสิ่งที่เราจะทำให้สำเร็จ โดยให้เขียนเป้าห ม ายที่วางไว้ พร้อมระบุปีที่ต้องการบรรลุเป้าห ม าย และมูลค่าเป้าห ม ายนั้น ก็ระบุลงไปอย่างชัดเจน
เพื่อให้ความฝันหรือเป้าห ม ายของเรามองเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น และสามารถนำไปแปลงเป็นแผนที่ใช้ได้จริง อีกทั้งควรสร้างสิ่งแวดล้อมรอบๆตัว
และรอบๆการทำงานเพื่อที่จะได้เป็นแรงบันดาลใจให้คุณตั้งใจ อดทน อดกลั้น เพื่อที่จะได้บรรลุเป้าห ม ายอย่างที่คุณตั้งไว้นั่นเองค่ะ
2. เมื่อ การตั้งเป้าห ม ายสำเร็จไปได้ด้วยดีแล้ว
เชื่อได้เลยนะคะว่าการเก็บออมครั้งนี้มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วนั่นเองค่ะ ชัยที่ว่านี้ไม่ได้เป็นการแข่งขัน หรือทำการสู้รบกับใครหรอ ก แต่เป็นการสู้รบกับจิ ตใจและความอดทนของตัวเองนั่นเองค่ะ
เมื่อตั้งเป้าห ม ายเสร็จก็อย่าได้รีรอเลยค่ะมาเริ่มขั้นตอนต่อไปกันได้เลย ขั้นตอนนี้ยากหน่อย แต่มันสามารถควบคุมให้เราได้อยู่ในแผนการเก็บเงินได้อย่างไม่รั่วไหลกันเลยทีเดียว
นั่นคือ การวางแผนการออม ซึ่งเป็นเหมือนเส้นทางหรือแผนที่ในการเดินทางไปสู่เป้าห ม าย โดยการระบุเงินออมในปัจจุบัน จำนวนเงินที่ต้องออมในแต่ละเดือน
และระยะเวลาในการออมเพื่อให้บรรลุเป้าห ม ายที่ต้องการ หากคุณตั้งใจที่จะเก็บออมอย่างจริงจังนั้น
หลายคนไม่น้อยเลยที่จะไปถึงยังเป้าห ม ายก่อนระยะเวลาที่ตั้งไว้เสียอีก ดังนั้นการวางแผนการออมจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่จัดได้เลยว่าดีไม่เบาเลยนั่นเอง
3. ติดตามความคืบหน้า
เมื่อได้วางแผนการออมและรู้จำนวนเงินที่ต้องออมในแต่ละเดือนแล้ว ก็เริ่มต้นทำตามแผนที่วางไว้ได้เลย ขั้นตอนสำคัญที่จะขาดไม่ได้คือ
การติดตามความคืบหน้าของการออม เพื่อดูว่าระหว่างทางสามารถออมเงินได้สำเร็จทุกเดือนตามแผนที่วางไว้หรือไม่ ติดขัดหรือมีปัญหาใดเกิดขึ้นระหว่างทางบ้าง จะได้หาทางแก้ไขได้ทันท่วงที
4. การสร้างความสนุก ความเพลิดเพลินในการออม
เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ตัวผู้ออมเองเกิดความสนุก และต้องการที่จะออมหรือเก็บเงินไปเรื่อยๆ ทั้งนี้เชื่อได้เลยว่าถ้าคุณสนุกไปกับมันแล้วล่ะก็ ส่วนหนึ่งในชีวิตคุณนั้น ไม่สามารถขาดการออมได้เป็นอย่างแน่นอนเลยทีเดียว
5. อย่าท้อ หรืออย่าถอยเมื่อเกิดปัญหา
ที่ไปไม่ได้อย่างที่ได้ตั้งเป้าห ม ายไว้ในช่วงแรกๆ แต่คุณก็ควรที่จะพลิกวิ п ฤ ติให้เป็นโอ กาสด้วยการที่คุณสามารถที่จะปรับเปลี่ยนเป้าห ม ายตามความเห ม าะสม
เพราะจะได้มีกำลังแรงใจหากมีเหตุการณ์ฉุ п เ ฉิ นหรือมีเรื่องที่ทำให้ต้องใช้เงินระหว่างทางจนกระทบกับแผนการออมที่วางไว้ และคิดว่าไม่สามารถทำเป้าห ม ายให้สำเร็จภายในเวลาที่ต้องการได้
ก็สามารถกลับมาทบทวนเป้าห ม ายและแผนการออม พร้อมแก้ไข ปรับเปลี่ยนเป้าห ม ายตามความเห ม าะสมได้ เช่น เลื่อนเป้าห ม ายออ กไปอีก 1 ปี เพื่อให้มีเวลาในการออมเงินเพิ่มขึ้น โดยที่ความฝันของเรายังไม่ถูกล้มเลิกไป
6. หากการเก็บเงินนั้นบรรลุเป้าห ม ายแล้วไม่ควรที่จะเลิกในการเก็บออมเงินเสียนะคะ
ควรที่จะตั้งเป้าห ม ายไปเรื่อยๆ เชื่อได้เลยว่าคุณจะสนุกกับการเก็บเงินจนติดเป็นนิสัยไปเลยก็ได้นั่นเอง เพราะหากบรรลุเป้าห ม ายกันบ่อยครั้งเกิดความดีใจ
ประทับใจและรักที่จะออมเงินไปเรื่อยๆจนเกิดเป็นความเคยชิน จนกระทั่งเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันกันเลยทีเดียว
