5 ขั้นตอนการเก็บเงินที่ควรทำ เพื่อให้มีเงินเหลือใช้

ช่วงต้นปีแบบนี้เชื่อว่าหลายๆ คนตั้งเป้าห ม ายอะไรสักอย่างต้อนรับปีใหม่อยู่แน่ๆ ค่ะ บางคนตั้งใจจะลดน้ำหนัก บางคนตั้งใจจะเลิกขับรถเร็ว

และบางคนก็ตั้งใจจะ เก็บเงิน ให้มีเงินเหลือเก็บเหลือใช้อย่างคนอื่นเขา ซึ่งการตั้งเป้าห ม ายต้อนรับปีใหม่แบบนี้ ใครๆ ก็ทำกันแต่จะมีสักกี่คนที่ทำได้จริงและทำได้ต่อเนื่องยาวนานไปจนจบปี

1. ทบทวนปัญหาทางการเงินในปีที่ผ่าน มา

ลองสำรวจเงินในบัญชีของตัวเองดูค่ะ ว่าตลอดทั้งปีที่ผ่าน มาคุณมีเงินงอ กเงยในบัญชีบ้างหรือเปล่า ซึ่งถึงแม้ว่าบางคนอาจจะไม่มีเงินในบัญชีมากขึ้นเท่าไหร่แต่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น มาแทนที่แบบนี้ก็ถือว่ามีการเติบโตทางการเงินอยู่ค่ะ

รวมถึงบางรายที่ไม่มีเงินเก็บในบัญชีแต่รายการหนี้ลดลงแล้วแบบนี้ก็ถือว่าดีมากๆ ส่วนใครที่ยังไม่มีอะไรเลยทั้งทรัพย์สินและเงินออมในบัญชี ลองทำข้อต่อไปดูค่ะ อย่าลืมว่าคุณยังพอจะมีเวลาที่จะเก็บออมเงินได้ แต่อย่าชะล่าใจค่ะ

2. กำหนดเป้าห ม าทางการเงินในแต่ละเดือน

ลองกำหนดเป้าห ม ายเป็นรายเดือนก่อนก็ได้ อาจจะไม่ต้องถึงขึ้นทำตามแผนให้ได้แบบจริงจังแต่ก็ควรทำให้ได้ตามนั้นบ้างค่ะ ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะกำหนดว่าฝากเงินเดือนละ 1000 บาททุกเดือน

ซึ่งถ้าเรากำหนดแบบนี้ก็จะช่วยให้เรามีเงินเก็บได้มากขึ้น รวมถึงลองสำรวจภาระหนี้สินของตัวเองด้วยค่ะว่าจะทำอย่างไรให้หนี้สินที่เรามีค้างอยู่หมดไป โดยอาจใช้เงินที่เราฝากทุกเดือน มาตัดยออดหนี้สินของเราออ กไปบ้างก็ได้

3. จดบัญชีรายรับ-รายจ่าย

การทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายอาจจะดูยุ่งยากสำหรับบางคน แต่ในปัจจุบันเรามีแอปพลิเคชั่นเกี่ยวการการจดบัญชีเหล่านี้ใน มือถือมากมาย เราสามารถบันทึกได้ง่ายๆ ค่ะ

ซึ่งการทำบัญชีรายรับรายจ่ายเหล่านี้ จะทำให้เราเห็นชัดเลยว่าเราเสียงินกับอะไรไปบ้างและได้รับเงิน มาจากทางไหนบ้าง และรายจ่ายอะไรที่คุณสามารถประหยัดขึ้นได้หรือลดมันลงได้ เพื่อที่เราจะได้มีเงินเหลือเก็บมาขึ้นค่ะ

4. คำนวนภาษี

ช่วงปลายปีมักจะมีสื่อสถาบันทางการเงินหลายๆ ที่ออ กมากระตุ้นให้เราใช้จ่ายเพื่อ การลดหย่อนภาษี ซึ่งบางคนหากมีเงินเหลือเก็บแล้วพอจะแบ่งเงินออ กมาซื้อประกัน

ซื้อ กองทุนรวมเพื่อใช้ลดหย่อนหรือบางรายซื้อประกันเพราะตนเองยังไม่มี อันนี้ก็น่าสนใจค่ะ แต่หากบางรายที่ยังไม่มีเงินเหลือเก็บมาก ยังต้องหมุนเงินใช้อยู่แต่หวังจะซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเงินเหล่านี้เพื่อหวังจะลดภาษีอย่างเดียว

เราก็ขอแนะนำให้คิดดีๆ ก่อนค่ะ เพราะบางคนเงินที่เสียไปกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินเหล่านี้นอ กจากจะไม่คุ้มกับเงินภาษีที่ลดลงมาแล้ว อาจยังต้องเสียเงินเก็บ จ่ายแพงขึ้นแล้วสุดท้ายก็มากระทบกับเงินเก็บของเราค่ะ

5. ตรวจสอบความเสี่ยงทางการเงิน

เมื่อเราอายุมากขึ้น เราก็อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายทางด้านสุขภาพที่สูงขึ้น นอ กจากนี้บางรายมีครอบครัวก็อาจจะต้องมีการเผื่อเงินไว้ให้ลูกและครอบครัว บางรายมีเรื่องของการผ่อนบ้านผ่อนรถ

ก็อาจจะต้องเตรียมเงินเผื่อไว้ส่วนนี้ด้วย ซึ่งแบบนี้ถือเป็นความเสี่ยงทางการเงินที่เราควรเผื่อเงินเก็บของเราเอาไว้ เพื่อไม่ให้กระทบกับเงินเก็บก้อนหลักของเราค่ะ

ซึ่งหากเรามีการวางแผนไว้อย่างดีแล้ว เราก็จะมีเงินสำรองไว้ใช้ในยามฉุ п เ ฉิ น หนชรือเมื่อเราจำเป็นจะต้องใช้เงินค่ะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *