มีหลายคนที่สงสัยว่าเงินเก็บเนี่ย จะเอาไปทำอย่างไรให้เงินงอ กเงยได้บ้าง เพราะไม่มีความรู้ด้านการเงินเลย วันนี้เรามีคำแนะนำให้กับคนที่กำลังสงสัยอยู่ว่า ควรจะนำเงินเก็บที่มีอยู่นั้นไปลงทุนอะไรได้บ้างกันนะครับ
1. เงินฝาก
เป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยกัน มาตั้งแต่เด็ก เป็นทางเลือ กแรกสำหรับการลงทุนที่คนส่วนใหญ่จะคิดว่าปลอดภัย และให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ
ถ้าเป็นสมัยก่อนก็น่าจะถูกต้อง เพราะก่อนหน้านั้นยังไม่มีกฎห ม ายที่ออ กมาคุ้มครองเงินฝาก แถมดอ กเบี้ยก็ยังสูงมาก
เพราะฉะนั้นเงินฝากธนาคารจึงเป็นที่นิยมมาตั้งแต่ในอดีต แต่ปัจจุบันแล้วไม่ใช่เลย เงินฝากธนาคารให้ผลตอบแทนที่น้อยมาก แถมระยะเวลาลงทุนก็นาน มากถึงจะได้ผลตอบแทนที่ต้องการ แต่ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยระดับหนึ่งก็ว่าได้
2. ตราส า รหนี้
เช่น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้เอ กชน ตั๋วเงินคลัง ฯลฯ เป็นการลงทุนอีกอย่างที่คล้ายกับเงินฝากธนาคารแต่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า
โดยการลงทุนในกลุ่มนี้ก็ให้ผลตอบแทนสูงขึ้นกว่าเงินฝากธนาคารเพียงเล็กน้อย แต่ก็ยังมีความเสี่ยงหากเราลงทุนในหุ้นกู้เอ กชนที่มีฐานะหรือเครดิตไม่ค่อยดี
โอ กาสที่เราจะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดก็มีอยู่ได้ แต่สำหรับการลงทุนในตราส า รหนี้ภาครัฐก็พอเป็นหลักประกันได้อย่างหนึ่งว่าเงินลงทุนของเรายังอยู่ครบแน่นอน
3. อสังหาริมทรัพย์
ที่เห็นกันส่วนใหญ่ในตอนนี้ก็น่าจะเป็น การลงทุนในคอนโดมิเนียม ที่มีทำเลติดรถไฟฟ้า ถ้าเป็นในเมืองก็ราคาสูงมาก
แต่ถ้าออ กนอ กเมืองมาหน่อยแต่มีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านก็อาจจะได้ราคาที่พอรับได้ ส่วน มากก็จะจ่ายเงินจองห้อง แล้วปล่อยให้คนอื่น มาเช่า โดยเอาเงินค่าเช่ามาจ่ายค่างวดให้กับธนาคาร
แต่เวลาที่เราจะตั้งราคาค่าเช่าห้องอย่าลืมคิดให้ถี่ถ้วนว่าเมื่อได้ค่าเช่ามาแล้วจะต้องครอบคลุมในเรื่องค่างวดพร้อมดอ กเบี้ยรายเดือนด้วยนะครับ
เพราะยังมีค่าใช้จ่ายส่วนกลางของโครงการ หรือค่าซ่อมแซมจุกจิก เป็นต้น และที่สำคัญการเอาคอนโดฯให้คนอื่นเช่าเราอาจจะต้อง Screen บ้าง หรือให้บริษัทนายหน้าหาคนเช่าให้เรา เพื่อเป็นการการันตีรายได้ที่เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ
4. ทองคำ
ก็เป็นอีกทางเลือ กหนึ่งของคนที่อยากลงทุน แต่แนะนำให้ซื้อเป็นทองคำแท่ง เพราะเวลาขายคืนราคามักจะสูงกว่าทองรูปพรรณ
เพราะจากข้อมูลในอดีตราคาทองคำมีแต่ขึ้นกับขึ้น แต่ในปัจจุบันก็อาจจะมีลงบ้างตามตลาดโลก แต่ยังไงเสียทองคำก็ยังให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจอยู่อีกเหมือนกัน
5. หุ้น
เป็นทางเลือ กที่นิยมกัน มากขึ้นทุกที เพราะบางคนจะบอ กว่าลงทุนในหุ้นจะได้ผลตอบแทนเร็ว ได้ผลตอบแทนสูง ซึ่งบางคนลงทุนเพียงปีเดียวแต่ได้ผลตอบแทนถึง 10-15% เลยก็มี
เป็นเพราะสามารถวิเคราะห์ตลาดได้เก่ง มองตลาดเป็น วิเคราะห์ทั้งข้อมูลพื้นฐานและข้อมูลทางเทคนิคเป็น ทำให้สามารถเลือ กซื้อขายหุ้นแต่ละตัวได้ถูกเวลา
ก็เลยทำให้มีผลตอบแทนกลับมาสูง แต่การลงทุนในหุ้นสิ่งที่เราจะยินบ่อยๆ คือ High Risk High Return ห ม ายความว่าลงทุน มากได้มาก แต่โอ กาสที่จะเสียก็มีมากด้วยเช่นกัน
6. กองทุนรวม
กองทุนรวมเป็นที่รวบรวมทุกสิ่งทุกอย่างข้างบน มารวมอยู่ในกองทุน ถ้าลงทุนในเงินฝากธนาคารและตราส า รหนี้ ก็จะเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน
เรามีกองทุนรวมที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เรามีกองทุนรวมที่ลงทุนในทองคำ หรือแม้แต่กองทุนที่ลงทุนในหุ้น ซึ่งข้อดี คือ เราไม่ต้องวิเคราะห์และบริหารทรัพย์สินแต่ละประเภทเอง
เพราะมีผู้จัดการกองทุนทำหน้าที่วิเคราะห์และบริหารให้เราอยู่แล้ว เงินลงทุนในกองทุนรวมนี้ก็ไม่ต้องสูงมาก เพียงแต่การลงทุนในกองทุนนั้นเราอาจจะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการบริหารกองทุนให้กับบริษัทจัดการบ้าง ตามที่จะกำหนดไว้ของแต่ละกองทุน